UNHCR logo
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
UNHCR logo
  • Search
  • Thailand
  • Menu

Select a language for this section:

English ไทย

Select a language for our global site:

English Français Español عربي
Select a country site:
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
  • Media Centre
  • ติดต่อเรา

Share

Facebook Twitter
  • เกี่ยวกับ UNHCR
    • UNHCR ในประเทศไทย
    • อนุสัญญาปี ค.ศ.1951 ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย
    • กลุ่มคนที่เราช่วยเหลือ
    • สถิติของ UNHCR ที่น่าสนใจ
    • ผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียง
  • การทำงานของเรา
    • การมอบความคุ้มครอง
    • ทางออกที่ยั่งยืน
    • การมอบความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานและปัจจัยสี่
    • การศึกษา
    • สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • ความร่วมมือภาคเอกชน
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
    • การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
    • วิกฤตการณ์ซีเรีย
    • สถานการณ์เมียนมา
    • วิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
    • วิกฤตการณ์เยเมน
    • วิกฤตการณ์ซูดานใต้
    • วิกฤตการณ์เวเนซุเอลา
    • วิกฤตการณ์ชาด
    • วิกฤตการณ์เอธิโอเปีย
    • วิกฤตการณ์ในอัฟกานิสถาน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • เรื่องราว
    • จดหมายข่าว
    • รายงานประจำปี
  • มีส่วนร่วมกับเรา
    • บริจาคออนไลน์
    • บริจาคผ่านพนักงานโดยตรง
    • บริจาคผ่านพนักงานทางโทรศัพท์
    • กิจกรรม
    • ผู้บริจาคของเรา : ครอบครัวผู้บริจาค UNHCR
    • ความร่วมมือจากบริษัท มูลนิธิ และองค์กรต่างๆ
    • กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่เพื่อผู้ลี้ภัย
    • ผู้สนับสนุนพื้นที่สื่อสารองค์กรของ UNHCR
    • ลงชื่อสนับสนุน
    • ร่วมงานกับเรา
Search UNHCR
Close Search
 
  • Home

UNHCR ยกระดับการรับมือด้านสาธารณสุขในที่พักพิงผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาหลังพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นครั้งแรก

สรุปการแถลงข่าวของนายอังเดร มาเฮกิก โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ณ ที่ทำการสหประชาชาติ สำนักงานใหญ่ กรุงเจนีวา 

21 พ.ค. 2020

UNHCR

ครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลอง, 27 พฤศจิกายน, 2018. © UNHCR/Roger Arnold

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และองค์กรพันธมิตร ยกระดับการรับมือในค่ายผู้ลี้ภัยเมืองค็อกซ์ บาซาร์ ประเทศบังคลาเทศ หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มผู้ลี้ภัยเมื่อวันก่อน ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา UNHCR ทำงานร่วมกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ โดยให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมและการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตามมาตรการของรัฐบาลบังคลาเทศมาโดยตลอด การรับมือหลังพบการติดเชื้อเป็นครั้งแรกเป็นไปตามมาตรการที่ได้เตรียมไว้และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากนานาชาติ

ข้อมูลจากรัฐบาลบังคลาเทศพบว่า ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา 1 คนในที่พักพิงผู้ลี้ภัยกูตูปาลอง ประเทศบังคลาเทศพบผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก และมีชาวบังคลาเทศอีก 1 คนตรวจพบเชื้อเป็นผลบวกด้วยเช่นกัน หลังจากทั้ง 2 คนได้ขอเข้าไปทดสอบการตรวจเชื้อที่สถาบันระบาดวิทยา การควบคุมโรค และการวิจัย บังคลาเทศ (IEDCR) ในค็อกซ์ บาซาร์

จากการยืนยันผลตรวจของสถาบัน ได้มีการจัดตั้งฝ่ายสืบสวนเร่งด่วนเพื่อติดตามผลของการติดเชื้อในครั้งนี้ มีการแยกตัวและแยกรับการรักษา รวมถึงการสืบประวัติการติดต่อและสัมผัสกับบุคคลอื่น เพื่อกักตัวและทดสอบตามขั้นตอนการปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก (WHO)

จากข้อมูลเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 มีผู้ลี้ภัยได้รับการตรวจเชื้อไวรัสในเมืองค็อกซ์ บาซาร์ รวมแล้ว 108 คน นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงมากถึง 860,000 คน และยังมีชาวบังคลาเทศอีกกว่า 400,000 คนที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนที่ให้ที่พักพิงโดยรอบ การอยู่อาศัยในพื้นที่หนาแน่นเช่นนี้ยังความกังวลและผลกระทบที่อาจตามมาอย่างรุนแรงเป็นอย่างมาก พวกเขาเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่สุดในโลกในวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งนี้ ในพื้นที่ชุมชนที่แออัดและโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่มีจำกัด ความพยายามในการรับมือกับการติดเชื้อต้องเป็นไปอย่างรอบด้านมากที่สุดเพื่อเลี่ยงอัตราการเสียชีวิต

จากการสนับสนุนด้านสาธารณสุขของรัฐบาลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและผลกระทบของไวรัสโควิด-19 UNHCR และองค์กรพันธมิตรต่างๆ ได้เตรียมมาตรการการเตรียมพร้อมและป้องกันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม มีการวางมาตรการการรับมือผู้ที่อาจติดเชื้อและผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับชุมชนที่ให้ที่พักพิงและผู้ลี้ภัยในค็อกซ์ บาซาร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสถานพยาบาลทุกแห่งในค่ายได้รับการอบรมขั้นตอนการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ และการใช้อุปกรณ์ป้องกันและคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลอย่างทั่วถึง

บุคคลากรในสถานพยาบาลกว่า 250 คนได้รับการฝึกอบรมเรื่องการเตือนภัยล่วงหน้าและการรับมือในภาวะฉุกเฉิน และยังมีอาสาสมัครผู้ลี้ภัยมากกว่า 3,000 คนที่เข้ารับการฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน ผู้ดูแลชุมชนที่ปฏิบัติงานเชิงรุก และผู้นำอิหม่ามของแต่ละชุมชนและกลุ่มประชาสังคมที่คอยประสานงานภายในค่ายเพื่อถ่ายทอดข้อความสำคัญแก่ผู้ลี้ภัยให้ทั่วถึง

การสื่อสารภายในค่ายและชุมชนที่ให้ที่พักพิงจัดขึ้นผ่านวิทยุกระจายเสียง วิดีโอ โปสเตอร์ และการส่งข้อความในภาษาโรฮิงญา พม่า และเบงกาลี เพื่ออธิบายเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส การป้องกันตัวเองและครอบครัว การสังเกตอาการและการขอความช่วยเหลือ

มีการส่งเสริมการดูแลสุขอนามัยในเขตที่พักพิง อีกทั้งองค์กรพันธมิตรต่างๆ ได้ช่วยจัดหาน้ำสะอาดและสบู่ให้พร้อมอยู่เสมอ และมีมาตรการเพิ่มจุดล้างมือที่ศูนย์แจกจ่าย จุดอนามัย จุดรับอาหาร และกำลังเพิ่มเติมตามสถานที่อื่นๆ ที่เราให้บริการ มีการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านมนุษยธรรมในการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตภายในค่ายเพื่อให้ผู้ลี้ภัยเข้าถึงข้อมูลที่เพียงพอและเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ ด้วยเช่นกัน

องค์กรพันธมิตรด้านน้ำสะอาด สุขอนามัย และสุขภาพ จัดกิจกรรมส่งเสริมการดูแลสุขอนามัยภายในค่ายเป็นประจำ มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคพื้นที่ส่วนรวมและบริเวณใกล้เคียงทั่วทั้งค่าย มีการรักษาระยะห่างทางสังคมและการล้างมือทุกจุดการให้บริการ และกำลังจัดตั้งศูนย์แยกตัวและให้การรักษาเฉพาะอย่างเร่งด่วนขึ้นใหม่ แยกออกจากศูนย์อนามัยสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง

แม้ว่าจะมีการเตรียมการรับมือกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัยไว้แล้ว แต่การรับมือจริงในระยะปัจจุบันต้องการการปฏิบัติและความร่วมมืออย่างเคร่งครัดเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยเป็นไปได้อย่างทันท่วงที ชุมชนได้รับข่าวสารและมีการติดต่ออย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการระบาดเพิ่มเติม

การช่วยเหลือที่รวดเร็วและความพร้อมจากรัฐบาล ภาคเอกชน และบุคคลทั่วไปยังคงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการทำงานเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 แก่ผู้ลี้ภัยและชุมชนที่ให้ที่พักพิงในบังคลาเทศ รวมถึงในประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันแผนความร่วมมือด้านมนุษยธรรมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาได้รับงบประมาณเพียงร้อยละ 26


ร่วมสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ของได้ที่: 
http://unh.cr/5ec6304631

ติดตามการทำงาน: Facebook | LINE | Instagram | Twitter | TikTok

#UNHCRThailand #EveryoneCounts #WithRefugees #COVID19

Share on Facebook Share on Twitter

 

See also

กลุ่มผู้หนีภัยจากการสู้รบที่เปราะบางในประเทศไทยเริ่มได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ความท้าทายด้านสุขภาพของผู้ลี้ภัยยังคงอยู่ในระดับสูงท่ามกลางวิกฤตโรคโควิด-19

UNHCR เตือน คนไร้รัฐไร้สัญชาติทั่วโลกมีความเสี่ยงไม่ได้รับวัคซีน

  • เกี่ยวกับ UNHCR
  • การทำงานของเรา
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
  • มีส่วนร่วมกับเรา

© UNHCR 2001-2023

  • Terms & Conditions and Privacy Policy
  • Follow