UNHCR logo
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
UNHCR logo
  • Search
  • Thailand
  • Menu

Select a language for this section:

English ไทย

Select a language for our global site:

English Français Español عربي
Select a country site:
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
  • Media Centre
  • ติดต่อเรา

Share

Facebook Twitter
  • เกี่ยวกับ UNHCR
    • UNHCR ในประเทศไทย
    • อนุสัญญาปี ค.ศ.1951 ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย
    • กลุ่มคนที่เราช่วยเหลือ
    • สถิติของ UNHCR ที่น่าสนใจ
    • ผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียง
  • การทำงานของเรา
    • การมอบความคุ้มครอง
    • ทางออกที่ยั่งยืน
    • การมอบความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานและปัจจัยสี่
    • การศึกษา
    • สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • ความร่วมมือภาคเอกชน
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
    • การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
    • วิกฤตการณ์ซีเรีย
    • สถานการณ์เมียนมา
    • วิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
    • วิกฤตการณ์เยเมน
    • วิกฤตการณ์ซูดานใต้
    • วิกฤตการณ์เวเนซุเอลา
    • วิกฤตการณ์ชาด
    • วิกฤตการณ์เอธิโอเปีย
    • วิกฤตการณ์ในอัฟกานิสถาน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • เรื่องราว
    • จดหมายข่าว
    • รายงานประจำปี
  • มีส่วนร่วมกับเรา
    • บริจาคออนไลน์
    • บริจาคผ่านพนักงานโดยตรง
    • บริจาคผ่านพนักงานทางโทรศัพท์
    • กิจกรรม
    • ผู้บริจาคของเรา : ครอบครัวผู้บริจาค UNHCR
    • ความร่วมมือจากบริษัท มูลนิธิ และองค์กรต่างๆ
    • กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่เพื่อผู้ลี้ภัย
    • ผู้สนับสนุนพื้นที่สื่อสารองค์กรของ UNHCR
    • ลงชื่อสนับสนุน
    • ร่วมงานกับเรา
Search UNHCR
Close Search
 
  • Home

ข้าหลวงใหญ่ UNHCR ให้คำมั่นในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบรุตขณะเดินทางลงพื้นที่

UNHCR กำลังทำงานเพื่อช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมอบความช่วยเหลือให้กับทั้งชาวเลบานอนในพื้นที่รวมถึงผู้ลี้ภัย ข้าหลวงใหญ่ UNHCR กล่าว หลังได้พบกับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด

นายฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ UNHCR (ขวา) เยี่ยมบ้านของครอบครัว มากุล อัล-ฮาหมัด ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย หลังเกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือเมืองเบรุต © UNHCR/Sam Tarling

3 ก.ย. 2020

UNHCR กำลังทำงานเพื่อมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยมอบความช่วยเหลือให้กับทั้งชาวเลบานอน ผู้ลี้ภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมนี้ ข้าหลวงใหญ่ UNHCR กล่าวระหว่างการเดินทางเยือนประเทศเลบานอน

เหตุระเบิดวันที่ 4 สิงหาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 180 คน มากกว่า 6,500 คน ได้รับบาดเจ็บและสร้างความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ราว 200,000 หลังคาเรือน โศกนาฏกรรมนี้เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศและการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

“พวกเราในฐานะที่ทำงานเพื่อมนุษยธรรมรวมถึงชุมชนนักมนุษยธรรมทั่วโลกต้องร่วมยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวเบรุต ในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด” นายฟิลลิปโป กรันดี กล่าวระหว่างภารกิจลงพื้นที่ครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 “ผมขอให้คำมั่นว่า UNHCR จะมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดไม่ว่าจะเป็นชาวเลบานอน ผู้ลี้ภัยหรือผู้อพยพ”

“สิ่งที่เกิดขึ้นโหดร้ายมาก”

นายกรันดี เดินไปตามถนนใกล้กับจุดศูนย์กลางของเหตุระเบิด ได้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชุมชนในพื้นที่ ก่อนเดินทางไปพบกับครอบครัวชาวเลบานอนและครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่พักพิงอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้รับการยืนยันแล้วว่ามีผู้ลี้ภัยที่เสียชีวิต 14 คน และอีก 61 คน ยังสูญหาย

ในจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบข้าหลวงใหญ่ UNHCR ได้พบกับครอบครัวของ มากุล อัล-ฮาหมัด ผู้ลี้ภัยจากทางตอนเหนือของซีเรีย ซามา ลูกสาววัย 6 ขวบของครอบครัวสูญเสียการมองเห็นที่ตาซ้ายจากเหตุระเบิดครั้งนี้

“ผมกลัวมากตอนที่เห็นลูกสาวมีเลือดไหลออกจากดวงตา” มากุลเล่า “สิ่งที่เกิดขึ้นโหดร้ายมาก โรงพยาบาลหลายแห่งได้รับความเสียหายแม้แต่คุณหมอที่ช่วยเราก็ต้องการการรักษาเช่นเดียวกัน”

นายฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ UNHCR เดินทางไปยังพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงใกล้จุดศูนย์กลางการระเบิด © UNHCR/Sam Tarling
นายฟิลลิปโป กรันดี พบกับหนูน้อยซามา อัล-ฮาหมัด ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียอายุ 6 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ตาซ้ายจากเหตุระเบิด © UNHCR/Sam Tarling
ซามา ต้องใส่ผ้าปิดตาที่ตาซ้ายหลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด © UNHCR/Sam Tarling
มากุล อัล-ฮาหมัด ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย (กลาง) อายุ 43 ปี เล่าประสบการณ์ขณะที่หน้าต่างในที่พักพิงของครอบครัวปลิวออกไปจากแรงระเบิดระหว่างเกิดเหตุ © UNHCR/Sam Tarling

ซามา ต้องใส่ผ้าปิดตาแผ่นใหญ่ที่ตาข้างซ้าย เรายังเห็นถึงอาการบาดเจ็บและความบอบช้ำที่เธอได้รับจากเหตุการณ์นั้น เสียงสว่านที่จู่ๆ ดังขึ้นขณะที่เพื่อนบ้านกำลังซ่อมประตูทำให้เธอสะดุ้งทันที

“ซามาคือชีวิต คือจิตใจ คือความหวังและอนาคตของผม” มากุล เสริม “แค่คิดว่าต้องเสียลูกไปผมก็ทนไม่ได้แล้ว”

“เป็นเรื่องน่าตกใจที่ได้มาเห็นความเสียหายครั้งใหญ่นี้ด้วยตาของตัวเอง แต่นั่นยังไม่เท่ากับความรู้สึกเจ็บปวดที่เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตจำนวนมาก” นายกรันดีกล่าว “ครอบครัวที่ผมได้พบวันนี้ต้องบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ด้วยทุกอย่างที่พวกเขาเหลืออยู่พวกเขายังมีความมุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง”

อ่านเพิ่มเติม: สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติยกระดับการช่วยเหลือฉุกเฉินหลังพบผู้ลี้ภัยเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดกลางกรุงเบรุต

UNHCR เป็นส่วนหนึ่งของทีมให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด UNHCR ระดมทรัพยากรและงบประมาณ 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่เปราะบางมากที่สุด โดยแบ่งเป็น 32.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับช่วยเหลือประชาชนราว 100,000 คน ที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายรุนแรง และอีก 2.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการมอบความคุ้มครองเช่นการให้คำปรึกษาด้านการฟื้นฟูจิตใจและการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย

“เมืองเบรุตและประชาชนในพื้นที่ต้องทนกับความเจ็บปวดจากโศกนาฏกรรมนี้ไปอีกหลายปี” นายฟิลลิปโป กล่าว “ตอนนี้เป็นเวลาที่เราต้องเสนอความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการเพื่อฟื้นตัว เจ้าหน้าที่ของเรากำลังทำงานอยู่ในพื้นที่ช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบซ่อมแซมบ้านเรือน ฟื้นฟูพวกเขาจากความบอบช้ำ”

ร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนการทำงานในเบรุตช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับผลกระทบตอนนี้ http://unh.cr/5f4cc6dd269

ติดตามการทำงาน: Facebook | LINE | Instagram | Twitter | TikTok

Share on Facebook Share on Twitter

 

See also

วันสุดท้ายของภารกิจการลงพื้นที่ นายฟิลลิปโป กรันดี เรียกร้องความช่วยเหลือให้กับประเทศเลบานอนในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติยกระดับการช่วยเหลือฉุกเฉินหลังพบผู้ลี้ภัยเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดกลางกรุงเบรุต

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเร่งสนับสนุนการช่วยเหลือในกรุงเบรุตหลังเหตุระเบิดใจกลางเมือง

  • เกี่ยวกับ UNHCR
  • การทำงานของเรา
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
  • มีส่วนร่วมกับเรา

© UNHCR 2001-2023

  • Terms & Conditions and Privacy Policy
  • Follow