UNHCR logo
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
UNHCR logo
  • Search
  • Thailand
  • Menu

Select a language for this section:

English ไทย

Select a language for our global site:

English Français Español عربي
Select a country site:
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
  • Media Centre
  • ติดต่อเรา

Share

Facebook Twitter
  • เกี่ยวกับ UNHCR
    • UNHCR ในประเทศไทย
    • อนุสัญญาปี ค.ศ.1951 ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย
    • กลุ่มคนที่เราช่วยเหลือ
    • สถิติของ UNHCR ที่น่าสนใจ
    • ผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียง
  • การทำงานของเรา
    • การมอบความคุ้มครอง
    • ทางออกที่ยั่งยืน
    • การมอบความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานและปัจจัยสี่
    • การศึกษา
    • สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • ความร่วมมือภาคเอกชน
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
    • การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
    • วิกฤตการณ์ซีเรีย
    • สถานการณ์เมียนมา
    • วิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
    • วิกฤตการณ์เยเมน
    • วิกฤตการณ์ซูดานใต้
    • วิกฤตการณ์เวเนซุเอลา
    • วิกฤตการณ์ชาด
    • วิกฤตการณ์เอธิโอเปีย
    • วิกฤตการณ์ในอัฟกานิสถาน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • เรื่องราว
    • จดหมายข่าว
    • รายงานประจำปี
  • มีส่วนร่วมกับเรา
    • บริจาคออนไลน์
    • บริจาคผ่านพนักงานโดยตรง
    • บริจาคผ่านพนักงานทางโทรศัพท์
    • กิจกรรม
    • ผู้บริจาคของเรา : ครอบครัวผู้บริจาค UNHCR
    • ความร่วมมือจากบริษัท มูลนิธิ และองค์กรต่างๆ
    • กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่เพื่อผู้ลี้ภัย
    • ผู้สนับสนุนพื้นที่สื่อสารองค์กรของ UNHCR
    • ลงชื่อสนับสนุน
    • ร่วมงานกับเรา
Search UNHCR
Close Search
 
  • Home

นักกีฬาผู้ลี้ภัยได้รับความสนใจจากทั่วโลกเมื่อการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกเริ่มขึ้น

พิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกมีนักกีฬาผู้ลี้ภัยร่วมเดินขบวนเปิดภายใต้ธงโอลิมปิกเพื่อแสดงถึงพลังของการกีฬาและสื่อถึงความหวังเพื่อผู้พลัดถิ่นอีก 82 ล้านคนทั่วโลก

Flag bearers Yusra Mardini and Tachlowini Gabriyesos lead the Refugee Olympic Team during the athletes' parade at the Tokyo 2020 Olympics Opening Ceremony. © REUTERS/Kai Pfaffenbach
© ยุสรา มาร์ดินี และทัคโลวินี กาบรีเยโซส ผู้เชิญธงนำทีมโอลิมปิกผู้ลี้ภัยในขบวนเปิดตัวนักกีฬาระหว่างพิธีเปิดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก พ.ศ. 2563 © REUTERS/Kai Pfaffenbach

25 ก.ค. 2021

คนหนึ่งคือนักวิ่งมาราธอนที่ต้องหนีการสู้รบในบ้านเกิดของตนตั้งแต่ยังเด็กโดยการเดินเท้าข้ามทะเลทราย อีกคนหนึ่งคือนักว่ายน้ำที่ต้องหลบหนีความขัดแย้ง เธอได้กระโดดลงน้ำเพื่อช่วยประคองเรือที่เต็มไปด้วยผู้คนให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยหลังเครื่องยนต์เกิดขัดข้อง

สมาชิกทีมโอลิมปิกผู้ลี้ภัยทั้ง 29 คน ต่างอดทนต่อความลำบากในการหนีออกจากประเทศของตนท่ามกลางความขัดแย้งและการประหัตประหาร และต่างเผชิญความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ๆ พวกเขาได้เอาชนะอุปสรรคทั้งหมดแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม สมาชิกของทีมได้เดินเข้าสนามอย่างเบิกบานระหว่างพิธีเปิดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก พ.ศ. 2563 ที่ถูกเลื่อนออกมาหนึ่งปีเนื่องจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก

สมาชิกทีมโอลิมปิกผู้ลี้ภัยทั้ง 29 คน ต่างอดทนต่อความลำบากในการหนีออกจากประเทศของตนท่ามกลางความขัดแย้งและการประหัตประหาร และต่างเผชิญความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ๆ พวกเขาได้เอาชนะอุปสรรคทั้งหมดแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม สมาชิกของทีมได้เดินเข้าสนามอย่างเบิกบานระหว่างพิธีเปิดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก พ.ศ. 2563 ที่ถูกเลื่อนออกมาหนึ่งปีเนื่องจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก

สมาชิกของทีมมีบ้านเกิดมาจาก 11 ประเทศ รวมถึง ซีเรีย ซูดานใต้ อิหร่าน และอัฟกานิสถาน พวกเขาเดินโบกมือให้กล้องขณะเดินเข้าสนามเป็นทีมที่สองต่อจากประเทศกรีซที่นำขบวนนักกีฬาเป็นชาติแรกตามธรรมเนียม

ทีมผู้ลี้ภัยนำโดยผู้เชิญธง 2 คน นักว่ายน้ำยุสรา มาร์ดินี บ้านเกิดมาจากประเทศซีเรีย และนักวิ่งมาราธอน ทัคโลวินี กาบรีเยโซส ผู้พลัดถิ่นจากรัฐเอริเทรีย พวกเขาชูธงสีขาวที่มีสัญลักษณ์ห่วงวงกลมโอลิมปิก 5 ห่วงที่แสดงถึงทวีปทั้ง 5 ของโลกซึ่งจะเป็นธงสัญลักษณ์ที่พวกเขาใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในการแข่งขันโอลิมปิกที่แต่ละทีมมีผู้เดินนำเป็นนักกีฬาชายและหญิงคู่กัน

  • See also: Refugee athletes aiming to succeed and inspire in Tokyo

หลังจากเดินขบวนเปิดเข้าสู่สนามด้วยสูทสีกรมท่าและได้โบกมือทักทายให้กับกล้องแล้ว ทีมผู้ลี้ภัยได้รับการต้อนรับจากนายโธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ระหว่างที่เขากล่าวเปิดงาน

“ถึง นักกีฬาผู้ลี้ภัยทุกท่าน ด้วยความสามารถและจิตวิญญาณของคุณ คุณได้แสดงให้เห็นถึงแบบอย่างของผู้ลี้ภัยที่ได้รับโอกาสในสังคม” เขากล่าว “คุณต้องพลัดถิ่นจากบ้านเกิดของตนเพราะความรุนแรง ความอดอยาก หรือแค่เพราะคุณแตกต่าง วันนี้เราขอต้อนรับคุณด้วยอ้อมแขนที่เปิดกว้างและพร้อมเป็นบ้านที่สงบสุข ขอต้อนรับสู่ชุมชนโอลิมปิกของเรา”

5 ปีที่แล้วที่นครรีโอเดจาเนโร นักกีฬา 10 คนจาก 4 ประเทศได้รวมตัวขึ้นเป็นทีมโอลิมปิกผู้ลี้ภัยทีมแรก คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ก่อตั้งทีมนี้ขึ้นในความร่วมมือกับสํานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการยืนหยัดเคียงข้างผู้ลี้ภัยและส่งข้อความแห่งความหวังสู่ผู้ลี้ภัยทุก ๆ คนและทั่วโลก

“เรื่องนี้ทำให้เรามีความหวังว่าทั่วโลกได้เห็นเราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง” เจมส์ ยาง เชียงเช็ค ผู้เข้าร่วมแข่งขันวิ่ง 800 เมตร กล่าว เขาเป็นหนึ่งในทีมที่ได้ลงแข่งที่นครรีโอ “กีฬาได้เปิดโอกาสให้กับเราและตอนนี้เราเห็นแล้วว่าผู้ลี้ภัยหลายๆ คนมีความสามารถพิเศษ”

ตอนเป็นเด็กเชียงเช็คต้องหนีออกจากบ้านของตนในประเทศซูดานใต้เพื่อหลบหลีกการถูกบังคับเข้าร่วมกองกำลังเด็กมาเพียงลำพังจนมาถึงที่พักพิงผู้ลี้ภัยคาคูมาที่กำลังขยายตัวออกเรื่อย ๆ และที่นั่นเองที่เขาได้ค้นพบความสามารถในการวิ่งของเขา

ปกติแล้วนักกีฬาที่เดินเข้ามาจะได้รับเสียงต้อนรับอย่างกึกก้องจากผู้ชมในสนาม แต่ด้วยมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 ทำให้ผู้เข้าชมไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ ปีนี้สนามเงียบกริบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและพิธีเปิดการแข่งขันกลายเป็นงานทางโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดให้หลายล้านคนทั่วโลกได้ดู

นายฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้เยือนกรุงโตเกียวในสัปดาห์โอลิมปิกเพื่อมอบกำลังใจให้กับทีมนักกีฬาเล่าว่า การได้ดูทีมโอลิมปิกผู้ลี้ภัยเดินเข้าสู่สนามโตเกียวโอลิมปิกนั้น เป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาและเจ้าหน้าที่ UNHCR ทุกคน

“การได้เห็นนักกีฬาผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้รับเกียรติและการปรบมือยกย่องบนเวทีโอลิมปิกนั้นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่พวกเขาได้เป็นตัวแทนของผู้พลัดถิ่นทั่วโลกอีกกว่า 82 ล้านคน และเป็นการย้ำเตือนทั่วโลกว่า หากผู้ลี้ภัยได้รับโอกาสทำตามฝันและความชื่นชอบแล้ว พวกเขาคือผู้ทำประโยชน์เพื่อสังคมได้อย่างมหาศาลเช่นกัน”

UNHCR ทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากลตั้งแต่ พ.ศ. 2537 เพื่อให้เยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากการพลัดถิ่นได้มีโอกาสเข้าถึงการกีฬา ในเวลานั้นการพลัดถิ่นทั่วโลกมีสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบันที่ทำให้ผู้คนมากกว่า 82 ล้านคนต้องพลัดถิ่นทั่วโลก

ในการเตรียมงานโตเกียวโอลิมปิก คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้สนับสนุนผู้ลี้ภัย 56 คน ด้วยทุนนักกีฬาผู้ลี้ภัยเพื่อช่วยพวกเขาในการฝึกซ้อมคัดตัวเข้าแข่งขัน ทั้ง 29 คนที่ผ่านเข้าร่วมทีมทำคะแนนได้ตรงตามเกณฑ์ รวมถึงเป็นผู้ลี้ภัยที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจาก UNHCR และการยืนยันความสามารถในการเล่นกีฬาในประเภทกีฬาของตนอย่างโดดเด่นจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล

จากประเทศต้นทาง ส่วนใหญ่ (9 คน) มาจากประเทศซีเรียที่เผชิญกับความขัดแย้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2554 อีก 5 คนเคยอาศัยอยู่ในประเทศอิหร่าน 4 คนในประเทศซูดานใต้ และ 3 คนในประเทศอัฟกานิสถาน ประเทศบ้านเกิดอื่นๆ ได้แก่ เอริเทรีย อิรัก สาธารณรัฐคองโก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แคเมอรูน ซูดาน และเวเนซุเอลา

“การยอมแพ้ไม่ใช่ฉัน”

กาบรีเยโซส วัย 23 ปี หนีการสู้รบในรัฐเอริเทรียมาเมื่ออายุ 12 ปี เดินทางอย่างยากลำบากขึ้นเหนือข้ามประเทศซูดานและอียิปต์ รวมถึงต้องเดินเท้าข้ามทะเลทรายเพื่อไปอิสราเอล ประเทศที่เขาขอสถานะลี้ภัย ปัจจุบันเขาอาศัยและฝึกซ้อมอยู่ในกรุงเทลอาวีฟที่เขาได้วิ่งให้กับสมาคมท้องถิ่นแห่งหนึ่ง

กาบรีเยโซสเริ่มวิ่งในระยะสั้น 3, 5, 10 กิโลเมตรและวิ่งฮาล์ฟ มาราธอนก่อนจะขึ้นระดับมาราธอน ในเดือนมีนาคม เขาลงวิ่งมาราธอนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 2 ทำเวลาได้ 2:10:55 นาที ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์โอลิมปิก “การยอมแพ้ ไม่ใช่ฉัน” เขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนการแข่งขันโอลิมปิก

ครั้งนี้เป็นการลงแข่งโอลิมปิกครั้งที่ 2 ของมาร์ดินี นักว่ายน้ำวัย 23 ปี ที่ลงแข่งว่ายน้ำ ประเภทผีเสื้อ 100 เมตร เธอมีบ้านเกิดอยู่ในกรุงดามัสกัส มาร์ดินี เคยเป็นนักว่ายน้ำระดับชาติของซีเรียที่ลงแข่งในระดับนานาชาติหลายรายการ แต่เมื่อความขัดแย้งในประเทศทวีความรุนแรงขึ้น เธอและพี่สาวต้องออกจากประเทศใน ปี พ.ศ. 2558 เพื่อพยายามไปให้ถึงยุโรป

“กีฬาช่วยชีวิตฉันไว้”

จากประเทศตุรกี มาร์ดินีลงเรือเล็กเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตรเพื่อไปยังเกาะแห่งหนึ่งของประเทศกรีซ ซึ่งควรจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที เมื่อเครื่องยนต์ของเรือยางบดที่บรรจุผู้โดยสารได้ 6-7 คน แต่ต้องรองรับคนมากถึง 20 คนดับลง เธอและพี่สาวเป็นหนึ่งในคนที่สละเรือเพื่อทำให้น้ำหนักเรือเบาลงและว่ายน้ำช่วยประคองเรือเข้าสู่ฝั่งได้อย่างปลอดภัย

ในที่สุดมาร์ดินีได้เดินเท้าและขึ้นรถโดยสารต่อไปยังกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ที่เธอได้อาศัยอยู่ในปัจจุบัน เหมือนนักกีฬาคนอื่น ๆ เธอบอกว่ากีฬาได้มอบความหมายและเส้นทางให้กับชีวิตของเธอในช่วงที่กำลังปรับตัว “ฉันเล่าเรื่องของฉันเพราะอยากให้คนเข้าใจว่ากีฬาได้ช่วยชีวิตฉันไว้อย่างไร” เธอกล่าว

ปัจจุบันในฐานะทูตสันถวไมตรีของ UNHCR หนึ่งในข้อความหลักของเธอคือ ผู้ลี้ภัยคือคนธรรมดาทั่วไปที่ต้องถูกบังคับให้หนีออกจากบ้านเกิดของตนเนื่องจากสถานการณ์ที่พวกเขาไม่อาจควบคุมได้

“ฉันคิดว่านี่คือโอกาสที่พิเศษมากที่ได้เป็นตัวแทนคน (ผู้ลี้ภัย) อีกหลายล้านคนทั่วโลกเพื่อแสดงว่าผู้คนเหล่านี้คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีความฝัน” มาร์ดินีกล่าวไว้ “ฉันอยากย้ำเตือนทุกคนด้วยว่ายังมีผู้ลี้ภัยที่อยู่ในค่ายอีกมากมายและพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราอยู่”

Share on Facebook Share on Twitter

 

See also

นักกีฬา 6 คนได้เข้าร่วมทีมพาราลิมปิกผู้ลี้ภัยในการแข่งขันโตเกียวเกมส์

UNHCR แสดงความยินดีกับทีมนักกีฬาพาราลิมปิกผู้ลี้ภัยทีมแรกของโลกในการแข่งขันพาราลิมปิกโตเกียว พ.ศ. 2563

นายกรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติแสดงความยินดีกับทีมนักกีฬาโอลิมปิกผู้ลี้ภัย

  • เกี่ยวกับ UNHCR
  • การทำงานของเรา
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
  • มีส่วนร่วมกับเรา

© UNHCR 2001-2022

  • Terms & Conditions and Privacy Policy
  • Follow