UNHCR logo
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
UNHCR logo
  • Search
  • Thailand
  • Menu

Select a language for this section:

English ไทย

Select a language for our global site:

English Français Español عربي
Select a country site:
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
  • Media Centre
  • ติดต่อเรา

Share

Facebook Twitter
  • เกี่ยวกับ UNHCR
    • UNHCR ในประเทศไทย
    • อนุสัญญาปี ค.ศ.1951 ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย
    • กลุ่มคนที่เราช่วยเหลือ
    • สถิติของ UNHCR ที่น่าสนใจ
    • ผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียง
  • การทำงานของเรา
    • การมอบความคุ้มครอง
    • ทางออกที่ยั่งยืน
    • การมอบความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานและปัจจัยสี่
    • การศึกษา
    • สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • ความร่วมมือภาคเอกชน
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
    • การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
    • วิกฤตการณ์ซีเรีย
    • สถานการณ์เมียนมา
    • วิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
    • วิกฤตการณ์เยเมน
    • วิกฤตการณ์ซูดานใต้
    • วิกฤตการณ์เวเนซุเอลา
    • วิกฤตการณ์ชาด
    • วิกฤตการณ์เอธิโอเปีย
    • วิกฤตการณ์ในอัฟกานิสถาน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • เรื่องราว
    • จดหมายข่าว
    • รายงานประจำปี
  • มีส่วนร่วมกับเรา
    • บริจาคออนไลน์
    • บริจาคผ่านพนักงานโดยตรง
    • บริจาคผ่านพนักงานทางโทรศัพท์
    • กิจกรรม
    • ผู้บริจาคของเรา : ครอบครัวผู้บริจาค UNHCR
    • ความร่วมมือจากบริษัท มูลนิธิ และองค์กรต่างๆ
    • กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่เพื่อผู้ลี้ภัย
    • ผู้สนับสนุนพื้นที่สื่อสารองค์กรของ UNHCR
    • ลงชื่อสนับสนุน
    • ร่วมงานกับเรา
Search UNHCR
Close Search
 
  • Home

ท่านข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้เพิกถอนการห้ามผู้หญิงทำงานด้านมนุษยธรรมในอัฟกานิสถาน

4 ม.ค. 2023

อาสาสมัครหญิงชาวอัฟกันทำงานช่วยเหลือโครงการการศึกษาที่สนับสนุนโดย UNHCR ในเมืองจะลาลาบาด อัฟกานิสถาน © UNHCR/Oxygen Film Studio

นายฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ร่วมกับหัวหน้าองค์กรด้านมนุษยธรรมอื่นๆ เรียกร้องรัฐบาลโดยพฤตินัยของอัฟกานิสถานให้เพิกถอนคำสั่งการจำกัดการทำงานของผู้หญิงในองค์กรพัฒนาเอกชน

“การกีดกันผู้หญิงจากการทำงานด้านมนุษยธรรมเป็นการปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของพวกเธออย่างรุนแรง ซึ่งจะมีแต่ส่งผลให้ชาวอัฟกันโดยรวมต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมานและความยากลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก การออกคำสั่งห้ามครั้งนี้ต้องถูกยกเลิก” นายกรันดี กล่าว

เจ้าหน้าที่หญิงมากกว่า 500 คน ทำงานกับองค์กรพัฒนาเอกชนที่เป็นพันธมิตรของ UNHCR  ในประเทศอัฟกานิสถานเพื่อมอบความช่วยเหลือแก่ผู้หญิงและเด็กเกือบ 1 ล้านคน การจำกัดการทำงานครั้งล่าสุดนี้จะบีบบังคับให้ UNHCR ต้องหยุดกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการช่วยเหลือชาวอัฟกันเป็นการชั่วคราว โดยเฉพาะต่อผู้หญิงและเด็ก

นอกจากการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่สำคัญแล้ว เจ้าหน้าที่ผู้หญิงต่างทำงานอยู่แนวหน้าในโครงการต่างๆ ที่พยายามหาทางออกให้แก่ชาวอัฟกันที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและการประหัตประหารมามากกว่า 4 ทศวรรษ รวมถึงผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในประเทศหลายล้านคน ซึ่งในจำนวนนั้น 3.4 ล้านคนกำลังพลัดถิ่นอยู่ในอัฟกานิสถาน และอีก 2.9 ล้านคนกำลังพลัดถิ่นอยู่นอกประเทศ เป็นผู้ลี้ภัย

“การจำกัดสิทธิอย่างเข้มงวดต่อผู้หญิงชาวอัฟกันและลดการมีส่วนร่วมของพวกเธอในการทำงานด้านมนุษยธรรมและการพัฒนา จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะผลักดันให้ครอบครัวอีกมากมายถูกบังคับให้หนีข้ามชายแดนในฐานะผู้ลี้ภัย อีกทั้งยังเป็นการลดทอนทางออกระยะยาวที่ได้คาดการณ์ไว้สำหรับผู้ที่พลัดถิ่นอยู่เดิมแล้ว เช่น การตัดสินใจเดินทางกลับสู่มาตุภูมิด้วยความสมัครใจเพื่อสร้างชีวิตใหม่” นายกรันดี กล่าว

ใน 34 จังหวัดของอัฟกานิสถาน ผู้หญิงได้ทำหน้าที่ผู้นำและมีส่วนร่วมในการรับมือด้านมนุษยธรรมอย่างขันแข็งมาโดยตลอด ทำให้ UNHCR สามารถเข้าถึงชาวอัฟกันมากกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 นอกจากข้อจำกัดอื่นอีกมากมายต่อผู้หญิง คำสั่งครั้งใหม่นี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชากรชาวอัฟกันเองเป็นจำนวนโดยประมาณ 40 ล้านคน

#UNHCR #WithRefugees #Afghanistan #อัฟกานิสถาน

Share on Facebook Share on Twitter

 

  • เกี่ยวกับ UNHCR
  • การทำงานของเรา
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
  • มีส่วนร่วมกับเรา

© UNHCR 2001-2023

  • Terms & Conditions and Privacy Policy
  • Follow