วันอีฎิ้ลอัดฮา เฉลิมฉลองให้ทาน เพื่อรำลึกถึงการเสียสละครั้งใหญ่
วันอีฎิ้ลอัดฮา เฉลิมฉลองให้ทาน เพื่อรำลึกถึงการเสียสละครั้งใหญ่

“วันอีฎิ้ลอัดฮา” หรือที่เรียกกันว่า “วันอีดใหญ่” เป็นหนึ่งในวันเฉลิมฉลองสำคัญของชาวมุสลิม ซึ่งเป็นวันที่แสดงถึงการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของอิบราฮิม และยังเป็นวันแห่งการแบ่งปันอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้วย สามารถอ่านถึงประวัติความเป็นมาของวันอีฎิ้ลอัดฮา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความช่วยเหลือไปให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนอย่างทั่วถึง
วันอีฎิ้ลอัดฮา คือวันอะไร?
วันอีฎิ้ลอัดฮา (Eid Al-Adha) คือ วันเฉลิมฉลองเชือดสัตว์พลีทานของชาวมุสลิม (อีด แปลว่าเฉลิมฉลอง และอัฎฮา แปลว่าเชือดสัตว์พลีทาน) ตรงกับวันที่ 10 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์ (เดือนสุดท้ายของปฏิธินอิสลาม) ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกปีโดยคำนวณจากการโคจรของดวงจันทร์
เรื่องราวในวันอีฎิ้ลอัดฮาได้มีการบันทึกในคัมภีร์กุรอานไว้ว่า
“ในระหว่างที่อิบราฮิมเข้าสู่ความฝัน เขาได้รับสาสน์จากอัลลอฮ์ให้ทำกุรบานลูกของตนเองเพื่อแสดงถึงความศรัทธา จากนั้นอิบราฮิมจึงนำสาสน์ที่ได้รับไปเล่าให้อิสมาอิลซึ่งเป็นลูกชายฟัง และเขาก็ยินดีที่จะทำตามคำขอของผู้เป็นพ่อ แต่ก่อนที่อิบราฮิมจะทำกุรบานลูกชายของตนเอง อัลลอฮ์ก็ประทานแกะให้ทำกุรบานแทน โดยเนื้อที่ทำการกุรบานจะแบ่งเป็น 3 ส่วน โดยมอบให้กับครอบครัว มิตรสหาย และผู้ยากไร้”
วันอีฎิ้ลอัดฮาจึงเป็นวันที่แสดงถึงความศรัทธาที่อิบราฮิมมีต่ออัลลอฮ์ และมีการสืบทอดเจตนารมณ์เหล่านั้นมาจวบจนปัจจุบัน
ขอบคุณที่มาจาก: https://islamicic.com/story-of-ibrahim-and-eid-al-adha/
ความสำคัญของวันอีฎิ้ลอัดฮา

ในศาสนาอิสลามมีวันที่ชาวมุสลิมทั่วทุกมุมโลกร่วมเฉลิมฉลองอยู่ 2 วัน คือ วันอีฎิลฟิตริ (วันอีดเล็ก) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองหลังถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และวันอีฎิ้ลอัดฮา (วันอีดใหญ่) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองการเชือดสัตว์พลีทานเพื่อแสดงถึงความศรัทธาในพระเจ้า และรำลึกถึงศาสดาของศาสนาอิสลาม ในวันอีฎิ้ลอัดฮาชาวมุสลิมก็จะเดินทางไปละหมาด พบปะครอบครัว เพื่อนฝูง และบริจาคสิ่งต่าง ๆ ให้กับผู้ยากไร้
ในประเทศไทยกำหนดวันรายออีดิลอัฎฮาหรือวันอีฎิ้ลอัดฮาไว้ว่าตรงกับวันที่ 10 ในเดือนสุดท้ายตามปฏิธินอิสลาม และทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศไว้ว่าวันอีฎิ้ลอัดฮาและวันอีฎีลฟิตริเป็นวันหยุดราชการประจำปีในบางจังหวัด เช่น ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล หรือสงขลา
วันอีฎิ้ลอัดฮากับกิจกรรมการเฉลิมฉลอง
วันอีฎิ้ลอัดฮาเป็นวันที่มีกิจกรรมเฉลิมฉลองตลอดทั้งวัน ซึ่งในหนึ่งวันอีดอัฎฮาก็จะมีธรรมเนียมที่ปฏิบัติติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
การทำกิจกรรมละหมาดร่วมกัน
ในช่วงเช้าของวันอีฎิ้ลอัดฮา ชาวมุสลิมจะล้างหน้าล้างตัวให้สะอาด ไม่ให้มีสิ่งสกปรกติดตัว ใส่เสื้อผ้าหลากสีสัน แล้วเดินเท้าไปมัสยิดใกล้บ้านเพื่อละหมาดร่วมกันก่อนเดินทางเยี่ยมเยียนครอบครัว ญาติสนิท มิตรสหาย
การพบปะและเฉลิมฉลองร่วมกันกับครอบครัวและมิตรสหาย
หลังละหมาดอีฎิ้ลอัดฮาเสร็จ จะมีการพบปะครอบครัวและญาติมิตรเพื่อเฉลิมฉลอง โดยจะกล่าวคำทักทาย ให้ของขวัญ และทานเนื้อสัตว์ เช่น วัว, แกะ, แพะ, อูฐ หรือในกรณีที่มีกำลังทรัพย์มากพอก็สามารถเป็นผู้ทำกุรบานสัตว์ เพื่อให้เข้าถึงพระเจ้ามากขึ้น
การบริจาคและให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
เนื้อสัตว์ที่เหลือจากการแบ่งให้ครอบครัวและมิตรสหายจะถูกนำไปแบ่งให้กับผู้คนยากไร้ ขาดแคลนอาหาร ทำให้วันตรุษอีฎิ้ลอัดฮาหรือวันอีดใหญ่เป็นหนึ่งในวันที่มีโอกาสบริจาคและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ด้อยโอกาส เพื่อแบ่งปันความสุขจากผู้ให้สู่ผู้รับ
วันอีฎิ้ลอัดฮา โอกาสในการมอบความช่วยเหลือให้แก่ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น

วันอีฎิ้ลอัดฮาเป็นวันที่ชาวมุสลิมต่างตั้งตารอคอย เพื่อจะได้พบปะและเฉลิมฉลองร่วมกับครอบครัวและญาติมิตร แต่สำหรับผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นอาจมองว่าวันอีฎิ้ลอัดฮาเป็นวันที่ยากลำบากอีกวันหนึ่ง เพราะผลกระทบจากสงครามและความขัดแย้ง เช่น ปัญหาความยากจน ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ตนเองไม่สามารถซื้อสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น หรือมีเงินไม่เพียงพอที่จะซื้อน้ำและอาหาร
แน่นอนว่าการขาดแคลนทุนทรัพย์ อาหาร น้ำสะอาด และปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตทำให้ผู้ลี้ภัยหรือผู้พลัดถิ่นไม่สามารถเข้าร่วมเฉลิมฉลองได้ และเมื่อมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ขัดสน ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเสื่อมโทรมในระยะยาว ดังนั้นเงินที่บริจาคในช่วงอีฎิ้ลอัดฮาจะเป็นทุนที่คอยสนับสนุนและช่วยเหลือผู้คนหมู่มากได้
วันอีฎิ้ลอัดฮา ร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกับ UNHCR
แม้ว่าวันอีฎิ้ลอัดฮาจะมีกิจกรรมบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่อยู่ใกล้ตัว แต่ปัญหาสงครามหรือความขัดแย้งก็เป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ส่งผลให้ในปัจจุบันมีจำนวนผู้ลี้ภัยหรือผู้พลัดถิ่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
คุณสามารถร่วมเฉลิมฉลองกับผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นทั่วโลกในวันอีฎิ้ลอัดฮาได้ด้วยการบริจาคเงินกับ UNHCR ซึ่งจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นของใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตโดยคำนึงถึงความต้องการ สภาพแวดล้อมของพี่น้องผู้ลี้ภัยในพื้นที่ และบรรเทาความทุกข์ยาก ส่งมอบความสุขให้กับผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นที่กำลังทุกข์ทรมานกับความขาดแคลนอย่างทั่วถึง
UNHCR เป็นหน่วยงานที่ได้รับฟัตวาให้รับซะกาตอย่างถูกต้องตามหลักศาสนา
เงินบริจาคที่คุณโอนเข้าสู่บัญชีซะกาตของ UNHCR ทุกบาท 100% จะถูกส่งมอบให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และมีคุณสมบัติการรับซะกาตตรงตามหลักศาสนา เช่น ผู้ที่มีความขัดสน, ขาดแคลนทุนทรัพย์ ผู้ที่กำลังเดินทาง รวมถึงผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
บริจาคออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์
สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นที่กำลังขัดสน ขาดแคลน ต้องการที่พักพิง น้ำสะอาดและอาหารในวันอีด สามารถร่วมบริจาคออนไลน์กับ UNHCR ได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือของคุณส่งถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถระบุจำนวนเงินและจำนวนครั้งที่ต้องการบริจาคได้ผ่านช่องทาง https://unh.cr/676a4b6c0
บริจาคผ่านบัญชีธนาคาร
กรณีที่ต้องการมีส่วนร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในวันอีฎิ้ลอัดฮากับเราผ่านบัญชีธนาคาร สามารถโอนเงินเข้าบัญชีซะกาตของ UNHCR โดยตรง ผ่านหมายเลขบัญชีต่อไปนี้
ธนาคาร : อิสลามแห่งประเทศไทย (iBank)
ชื่อบัญชี UNHCR Special Account
เลขที่บัญชี : 008-1-36212-9
โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลบัญชีซะกาตได้ที่ https://www.ibank.co.th/th/product/zakat/detail/zakat-management/unhcr
หมายเหตุ
- เมื่อโอนเงินบริจาคเรียบร้อยแล้ว กรุณาส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่
LINE ID: @UNHCRDonation เพื่อยืนยันการบริจาค
- กรณีที่ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาคเพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านช่องทาง
LINE ID: @UNHCRThailand
Email: [email protected]
วันอีฎิ้ลอัดฮา มอบความสุขให้กับผู้ลี้ภัยด้วยการเป็นผู้ให้
วันอีฎิ้ลอัดฮาหรือวันอีดใหญ่เป็นวันที่คุณสามารถแบ่งปันและร่วมเป็นผู้ให้ในเทศกาลสำคัญเพื่อมอบความช่วยเหลือและช่วยชีวิตพี่น้องผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก เช่น ที่พักพิง อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม การรักษาพยาบาลหรือยารักษาโรค ให้ผู้ยากไร้และผู้ลี้ภัยได้ร่วมเฉลิมฉลองในวันอีดได้อย่างมีความสุข โดยสามารถบริจาคผ่านบัญชีซะกาตของ UNHCR ที่ได้รับฟัตวาให้สามารถรับซะกาตตามหลักศาสนา