วันมาฆบูชา ประวัติ ความสำคัญต่อชาวพุทธ กับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

ประวัติวันมาฆบูชาและความเป็นมา

วันมาฆบูชาตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ตามปฏิทินจันทรคติไทย แต่หากเป็น ปีอธิกสุรทิน ซึ่งมีเดือน 8 สองครั้ง จะเลื่อนมาเป็น วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 แทน โดยทั่วไปแล้วมักตรงกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคมของทุกปี

คำว่า "มาฆบูชา" สามารถถอดความหมายได้จากรากศัพท์เดิม คำว่า "มาฆะ" หมายถึง เดือนที่สาม ตามหลักอินเดียโบราณ ส่วนคำว่า "บูชา" หมายถึง การแสดงความเคารพ ดังนั้น วันมาฆบูชา ความหมายโดยรวมจึงหมายถึง "การบูชาในวันเพ็ญเดือนสาม" ซึ่งเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนใช้เป็นโอกาสสำคัญในการปฏิบัติธรรมและแสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า

ประวัติความเป็นมาของวันมาฆบูชามีจุดกำเนิดมาจากเหตุการณ์สำคัญในสมัยพุทธกาลที่เกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งได้รับการจารึกและสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน พุทธศาสนิกชนให้ความสำคัญกับวันนี้สืบต่อกันมาในกลุ่มประเทศที่นับถือนิกายเถรวาท เช่น ไทย ลาว กัมพูชา เมียนมา หรือศรีลังกา

ในประเทศไทยมีการเริ่มเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการในรัชกาลที่ 4 พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและโปรดเกล้าฯ ให้มีการประกอบพิธีในพระบรมมหาราชวังเป็นครั้งแรก ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาได้สะดวกยิ่งขึ้น

ขอบคุณที่มาจาก : https://www.onab.go.th/th/content/category/detail/id/73/iid/3403

วันมาฆบูชามีความสำคัญอย่างไร

วันมาฆบูชาเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเผยแผ่หลักธรรมที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาแก่เหล่าสาวก เรียกว่า “โอวาทปาฏิโมกข์” หรือ “โอวาท 3” อันประกอบด้วย “การทำความดีให้ถึงพร้อม การละเว้นความชั่วทั้งปวง และการทำจิตใจให้บริสุทธิ์” ซึ่งเป็นคำสอนสำคัญของวันมาฆบูชา ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมด 4 ประการด้วยกัน รวมเรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” อันประกอบด้วย

• พระอรหันต์ทั้งหมด 1,250 รูปมาประชุมอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน แคว้นมคธ ซึ่งคือประเทศอินเดียในปัจจุบัน

• พระอรหันต์ทั้งหมดเป็นพระสงฆ์ที่พระพุทธเจ้าทรงอุปสมบทให้ด้วยพระองค์เอง (เอหิภิกขุอุปสัมปทา)
• ตรงกับวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
• พระสงฆ์ที่มาทั้งหมดเป็นพระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา 6 (อิทธิฤทธิ์จากการฝึกญาณขั้นสูง)

โดยคำว่า “จาตุร” แปลว่า “สี่” “องค์” แปลว่า “ส่วนของ” และ “สันนิบาต” แปลว่า “การประชุม”

ดังนั้น จาตุรงคสันนิบาติ จึงแปลว่า การประชุมด้วยส่วนขององค์สี่ เราจึงสามารถเรียกวันเพ็ญเดือนสามนี้ว่า วันจาตุรงคสันนิบาต นั่นเอง

วันมาฆบูชาในประเทศไทยมีความเป็นมาอย่างไร หลักธรรมและกิจกรรมที่ควรปฏิบัติมีอะไรบ้าง

สำหรับในประเทศไทยวันมาฆบูชามีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แม้ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าพิธีทำบุญวันมาฆบูชาเริ่มต้นในรัชสมัยใด แต่จากหนังสือราชพิธีสิบสองเดือน ได้กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเริ่มประกอบพิธีทางมาฆบูชาครั้งแรกในปี พ.ศ. 2394 ณ พระบรมมหาราชวัง ภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พิธีกรรมในวันพระใหญ่นี้ได้แพร่หลายไปสู่ประชาชนทั่วไป ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระองค์ทรงเห็นความสำคัญของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และทรงมีพระบรมราชโองการให้ประกาศให้วันนี้เป็นวันหยุดราชการอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาอย่างพร้อมเพรียงกัน

หลักธรรม/หลักคำสอนที่ควรปฏิบัติในวันมาฆบูชา

หลักธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวันมาฆบูชา คือ โอวาทปาฏิโมกข์ หรือ โอวาท 3 ประการที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนา ได้แก่ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นแก่นของคำสอนที่พุทธศาสนิกชนทุกคนควรยึดถือปฏิบัติในทุก ๆ วัน

นอกจากนี้หลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับวันมาฆบูชายังครอบคลุมไปถึง หลักไตรสิกขา ซึ่งประกอบด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา ศีลช่วยควบคุมกาย วาจา ให้สงบและไม่เบียดเบียนผู้อื่น สมาธิช่วยให้จิตใจมั่นคง มีสติ และไม่ฟุ้งซ่าน ส่วนปัญญาเป็นความเข้าใจในสัจธรรมที่นำไปสู่การพ้นทุกข์

วันมาฆบูชายังส่งเสริมความสำคัญของการปฏิบัติตาม บุญกิริยาวัตถุ 3 ได้แก่ การให้ทาน การรักษาศีล และการเจริญภาวนา ซึ่งเป็นแนวทางเสริมสร้างบุญกุศลให้กับตนเองและสังคม หลักธรรมเหล่านี้จึงไม่ได้เป็นเพียงคำสอนในเชิงทฤษฎี แต่เป็นหลักที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดความสงบสุขและพัฒนาตนเองสู่ความดีงามได้อย่างแท้จริง

กิจกรรมในวันมาฆบูชาสำหรับพุทธศาสนิกชน

กิจกรรมในวันมาฆบูชา มีอะไรบ้าง? ส่วนใหญ่แล้วกิจกรรมที่ชาวพุทธมักยึดถือปฏิบัติกันในวันมาฆบูชา คือ ร่วมกันทำบุญตักบาตรหรือถวายเพลพระสงฆ์ ฟังพระธรรมเทศนา และรักษาศีลเพื่อฝึกจิตใจให้สงบ จนถึงในช่วงค่ำ วัดทั่วประเทศจะจัดพิธีเวียนเทียน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญที่สุด โดยผู้ร่วมพิธีจะถือดอกไม้ ธูป และเทียน เดินเวียนรอบพระอุโบสถ 3 รอบ เพื่อรำลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

ขอบคุณที่มาจาก: https://kbi.onab.go.th/th/content/category/detail/id/12/cid/73/iid/77525

วันมาฆบูชา ส่งต่อการให้ แบ่งปันน้ำใจสู่สังคม

วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งเป็นวันสำคัญเนื่องจากวันมาฆบูชาเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนให้ความสำคัญ นอกจากการทำบุญตักบาตร รักษาศีลแล้ว คุณยังสามารถใช้โอกาสแห่งวันพระใหญ่ในการทำมหากุศล ส่งต่อความดีผ่านการให้ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคอาหาร เครื่องใช้จำเป็นสำหรับผู้ยากไร้ สนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาส หรือสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ลี้ภัย

ทุกการให้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนมีคุณค่าและช่วยเติมเต็มหัวใจของผู้ให้และผู้รับด้วยกันทั้งสิ้นในโอกาสวันมาฆบูชา วันแห่งบุญนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำความดีตามแนวทางแห่งวันมาฆบูชายึดมั่นใจหลักธรรมโอวาทปาฏิโมกข์ เพราะการให้ไม่ได้เพียงสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น แต่ยังช่วยให้จิตใจของเราสงบสุขและสร้างแสงแห่งความเมตตาส่องสว่างให้โลกใบนี้งดงามยิ่งขึ้นต่อไป

วันมาฆบูชา ร่วมบริจาคกับ UNHCR โลกสดใส หัวใจอิ่มบุญ

วันนี้ไม่ได้เป็นเพียงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่ยังเป็นโอกาสในการส่งต่อความเมตตาและช่วยเหลือผู้ที่กำลังเผชิญความยากลำบาก วันมาฆบูชานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่คุณสามารถทำความดีผ่านการให้ ร่วมบริจาคเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเด็ก ผู้หญิง และครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ในโลกปัจจุบันผู้คนมากมายต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงและความยากลำบากทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้หญิงที่ไร้รัฐไร้สัญชาติ พวกเขาขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล สิทธิพื้นฐานในการดำรงชีวิต UNHCR ทำงานร่วมกับพันธมิตร ให้ความช่วยเหลือด้วยในการยื่นขอสัญชาติตามกฎหมาย และจัดหาความช่วยเหลือในทุกด้านที่จำเป็น เพื่อให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ปลอดภัยและมีความหวังอีกครั้ง

ในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนานี้เป็นวันแห่งการทำความดีและสร้างบุญกุศล เราขอเชิญชวนให้ทุกท่านร่วมแบ่งปันสิ่งดี ๆ ผ่านการบริจาคกับ UNHCR เพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังรอคอยความหวัง การบริจาคเงินของคุณสามารถเป็นแสงสว่างนำทางให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

บริจาคออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์

คุณสามารถบริจาคออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ UNHCR ได้ทันที พร้อมช่องทางการชำระเงินให้เลือกหลากหลาย เช่น การตัดจ่ายผ่านบัตรเครดิตที่มีความปลอดภัย สะดวกรวดเร็ว ดำเนินการได้ง่าย ๆ โดยรูปแบบการบริจาครายเดือนที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้ UNHCR ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนได้ต่อเนื่องและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้กับโลกใบนี้

บริจาคผ่านบัตรเครดิตอย่างปลอดภัยบนเว็บไซต์ของ UNHCR

UNHCR มีระบบบริจาคออนไลน์ที่รองรับการบริจาคผ่านบัตรเครดิตที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง เพื่อให้คุณสามารถร่วมสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ไร้รัฐไร้สัญชาติได้อย่างมั่นใจ

บริจาคผ่านเจ้าหน้าที่ระดมทุนตามสถานที่ต่าง ๆ

หากพบเจ้าหน้าที่ระดมทุนของ UNHCR ตามสถานที่ต่าง ๆ คุณสามารถร่วมบริจาคและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยตรง เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำและอธิบายรูปแบบการบริจาค เช่น การบริจาครายเดือน ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยส่งต่อความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้หากสะดวกบริจาคออนไลน์ ก็สามารถเลือกใช้การตัดผ่านบัตรเครดิตได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ

สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาคเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @UNHCRThailand หรือทางอีเมล [email protected]

บริจาคสนับสนุนการทำงาน

วันมาฆบูชาปีนี้ สุขใจกว่าที่เคย ด้วยการแบ่งปัน

ได้ทราบกันไปแล้วนะคะว่าวันมาฆบูชามีความเป็นมาอย่างไร รวมถึงกิจกรรมที่ชาวพุทธมักปฏิบัติกันในวันมาฆบูชา แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือวันมาฆบูชาถือเป็นวันอะไรที่มีคุณค่ามากกว่าแค่วัน ๆ หนึ่ง เพราะนี่คือโอกาสแห่งการทำความดีและร่วมแบ่งปันพลังน้ำใจแก่เพื่อนมนุษย์ เรากำลังช่วยเหลือเด็ก ผู้หญิง และครอบครัวที่ยากลำบากให้ได้รับโอกาสและความคุ้มครอง

ในโอกาสนี้ ขอเชิญร่วมบริจาคกับ UNHCR เพื่อส่งต่อความเมตตาและเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนที่กำลังเผชิญหน้ากับความเลวร้าย ให้พวกเขาได้มีชีวิตที่สดใส มาทำวันพระใหญ่ปีนี้ให้สุขใจมากกว่าที่เคยไปพร้อมกัน