งบประมาณที่ถูกตัดทำให้ผู้คนกว่า 11 ล้านคน กำลังไม่ได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น
งบประมาณที่ถูกตัดทำให้ผู้คนกว่า 11 ล้านคน กำลังไม่ได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น
ครอบครัวที่หลบหนีความขัดแย้งในซูดานกำลังรอการเคลื่อนย้ายจากชายแดน Renk ที่แออัดในซูดานใต้
เจนีวา – จากการตัดงบประมาณด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ ผู้ลี้ภัยและผู้ที่ถูกบังคับให้พลัดถิ่นกว่า 11.6 ล้านคน กำลังเสี่ยงสูญเสียการได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ในปีนี้ ตามรายงานที่เผยแพร่ตัวเลขดังกล่าวเผยให้เห็นหนึ่งในสามของจำนวนผู้คนที่ UNHCR ให้ความช่วยเหลือในปีที่ผ่านมา
รายงานฉบับนี้เน้นย้ำถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นหลายล้านคน ได้แก่ การพลัดถิ่นที่เพิ่มสูงขึ้น งบประมาณที่ลดลง และความเพิกเฉยทางการเมือง โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กคือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเช่นเคย
โดยรวมแล้วมีโครงการที่จำเป็นมูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ กำลังถูกตัดงบประมาณหรือถูกระงับงบประมาณตามการวิเคราะห์โครงการและงบประมาณที่ UNHCR ได้รับในปีนี้ ทำให้ตอนนี้ผู้คนหลายล้านคนกำลังเผชิญกับสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ลง เสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบและล่วงละเมิดเพิ่มขึ้น และอาจถูกผลักดันให้ต้องพลัดถิ่นซ้ำอีกครั้ง
เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้คือชีวิตจริงที่กำลังถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย ครอบครัวกำลังเห็นว่าการสนับสนุนที่พวกเขาพึ่งพาได้กำลังหายไป ต้องถูกบังคับให้เลือกระหว่างการเลี้ยงดูลูก ซื้อยารักษาโรค หรือจ่ายค่าเช่าบ้าน ในขณะที่ความหวังที่จะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ก็ค่อยๆ เลือนหายไป ทุกภาคส่วนและทุกการทำงานได้รับผลกระทบ และการสนับสนุนช่วยเหลือที่จำเป็นกำลังถูกระงับเพื่อให้การช่วยเหลือชีวิตที่เร่งด่วนดำเนินต่อไปได้
การตัดงบประมาณทำให้ UNHCR ต้องระงับการเคลื่อนย้ายผู้ที่เดินทางมาถึงใหม่จากพื้นที่ชายแดนไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย เช่น ชาด และซูดานใต้ ทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องติดค้างอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ในยูกันดาอัตราการเกิดภาวะขาดสารอาหารในศูนย์รับผู้ลี้ภัยบางแห่งกำลังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การเข้าถึงน้ำสะอาดและอาหารเป็นไปได้อย่างจำกัด
การบริการด้านสุขภาพ และการศึกษากำลังถูกปรับลดขนาดลง โดยโรงเรียนต้องปิดทำการ และคลินิกมีบุคลากรไม่เพียงพอ ในค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในประเทศบังกลาเทศเด็กผู้ลี้ภัยกว่า 230,000 คน กำลังเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการศึกษา รวมทั้งโครงการด้านสุขภาพทั้งหมดของ UNHCR ในประเทศเลบานอนกำลังเสี่ยงที่จะถูกปิดตัวลงภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน
ความช่วยเหลือด้านการเงิน และการจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินทั่วโลกลดลงร้อยละ 60 และโครงการให้ที่พักพิงชั่วคราวถูกลดลงอย่างมากเช่นกัน ในบางประเทศ เช่น ไนเจอร์ การตัดความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับที่พักพิงทำให้หลายครอบครัวต้องอยู่อาศัยในที่พักที่แออัดหรือเสี่ยงต่อการไร้ที่อยู่อาศัย ในยูเครนและทั่วทั้งภูมิภาคความช่วยเหลือทางด้านเงินก็ถูกตัดลดลงเช่นกัน ทำให้ครอบครัวที่ต้องพลัดถิ่นไม่สามารถจ่ายค่าเช่า ค่าอาหาร หรือค่ารักษาพยาบาลได้
การลงทะเบียนผู้ลี้ภัย การให้ความคุ้มครองเด็ก การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย รวมถึงการป้องกันและการช่วยเหลือด้านความรุนแรงทางเพศกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก พื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงและเด็กหญิงผู้ลี้ภัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก UNHCR กว่าร้อยละ 75 ในประเทศซูดานใต้ถูกปิดลง ทำให้ผู้หญิงและเด็กหญิงผู้ลี้ภัยมากถึง 80,000 คน รวมถึงผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล การสนับสนุนด้านจิตสังคม ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย การช่วยเหลือด้านสิ่งของที่จำเป็น หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับพวกเขา
การตัดงบประมาณยังส่งผลกระทบที่น่ากังวลต่อการตั้งถิ่นฐานใหม่ รวมทั้งการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศต้นทางอย่างปลอดภัยและสมัครใจ ตั้งแต่ต้นปีชาวอัฟกันราว 1.9 ล้านคน ได้เดินทางกลับบ้านหรือถูกบังคับให้กลับบ้าน แต่ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับผู้ที่กลับประเทศนั้นแทบไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายเพื่อซื้ออาหาร และเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งส่งผลต่อความพยายามในการกลับไปตั้งถิ่นฐานใหม่อีกครั้งได้อย่างมั่นคงของพวกเขา
ในหลายส่วนของการทำงาน ช่องว่างจากการขาดแคลนงบประมาณอย่างรุนแรงได้จำกัดการลงทุนในการพัฒนาระบบการขอลี้ภัยให้ทันสมัยและดียิ่งขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมความพยายามในการทำให้เป็นไปตามมาตรฐาน ในประเทศต่างๆ เช่น โคลอมเบีย เอกวาดอร์ คอสตาริกา และเม็กซิโก การไม่มีสถานะทางกฎหมายทำให้เกิดความไม่มั่นคงที่ยาวนาน ความยากจนที่ทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากผู้ลี้ภัยถูกกีดกันจากการจ้างงานในระบบ เสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบ และการละเมิดสิทธิมากขึ้น การตัดงบประมาณเหล่านี้กำลังบั่นทอนความพยายามในการหาทางออกในระยะยาว นอกจากนี้ค่าตอบแทนสำหรับอาสาสมัครผู้ลี้ภัยก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งกระทบต่อการบริการที่สำคัญ และตัดแหล่งรายได้หลักที่ผู้ลี้ภัยเหล่านี้กำลังพึ่งพาอยู่
สำหรับปี พ.ศ. 2568 ความต้องการด้านงบประมาณของ UNHCR อยู่ที่ 10.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตังแต่กลางปีงบประมาณที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุน เพียงร้อยละ 23 เท่านั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนจึงมุ่งมั่นพยายามในการช่วยชีวิต และคุ้มครองผู้ที่ถูกบังคับให้หนี หากได้รับงบประมาณ UNHCR มีระบบการทำงาน มีพันธมิตร และมีความเชี่ยวชาญพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและขยายขอบเขตการช่วยเหลือได้อย่างรวด
ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ UNHCR ขอขอบคุณผู้บริจาคทุกท่านที่ยังคงให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และขอเรียกร้องให้ภาครัฐบาล ภาคเอกชน และบุคคลทั่วไป ร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนและปิดช่องว่างด้านการเงินที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้