UNHCR ผนึกกำลังภาคเอกชนยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
UNHCR ผนึกกำลังภาคเอกชนยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
กรุงเทพฯ - สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และบริษัท เมดิเอเตอร์ จำกัด ซึ่งเชี่ยวชาญการพัฒนาธุรกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่น ร่วมจัดงาน “การสนับสนุนจากภาคเอกชนเพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ” ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ วัตถุประสงค์ของงานในครั้งนี้คือการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้และระดมทุนให้กับโครงการเพื่อช่วยเหลือคนไร้รัฐไร้สัญชาติของ UNHCR ซึ่งสนับสนุนความพยายามครั้งประวัติศาสตร์ของรัฐบาลไทยในการยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทย การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 70 คน จากภาคธุรกิจทั้งไทยและญี่ปุ่น โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารของบริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับนโยบายด้านความยั่งยืน และมีช่วงเสวนากับผู้แทนรัฐบาลไทย ภาคประชาสังคม และอดีตบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์และความร่วมมือในการทำงาน โดยไฮไลท์ของงานคือการเปิดตัว “กองทุนไทย-ญี่ปุ่นเพื่อบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ” หรือ “Thai-Japanese Statelessness Fund” เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมและสนับสนุนภารกิจในการยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรไร้รัฐไร้สัญชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีผู้ได้รับการจดทะเบียนเป็นบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทยกว่า 600,000 คน พวกเขาเผชิญกับความท้าทายอย่างมากในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข การศึกษาระดับสูง เสรีภาพในการเดินทาง และโอกาสการจ้างงาน ภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติไม่เพียงแต่เป็นประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ยังเป็นความท้าทายด้านการพัฒนาต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของประเทศไทยรวมถึงภาพลักษณ์ของภาคธุรกิจในเวทีโลก
ประเทศไทยในฐานะสมาชิกของพันธมิตรสากลเพื่อยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ (Global Alliance to End Statelessness) เป็นผู้นำระดับโลกและระดับภูมิภาคในการแก้ไขภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ UNHCR ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติที่ได้รับมอบหมายจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติให้ป้องกันและลดภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยและภาคประชาสังคมในการช่วยเหลือบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติให้ได้รับสัญชาติและสถานะเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ถิ่นที่อยู่ถาวร) และเป็นพลเมืองที่มีศักยภาพสูงสุด
“ประเทศไทยเป็นผู้นำระดับภูมิภาคและระดับโลกในการยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ” นีวีน อัลเบิร์ต รองผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าว “การเปิดตัวกองทุนไทย-ญี่ปุ่นเพื่อบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ แสดงให้เห็นถึงแนวทางการดำเนินงานแบบองค์รวมที่ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งจำเป็นต่อการยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติของประเทศ”
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 รัฐบาลไทยได้มีมติคณะรัฐมนตรีเพื่อเร่งรัดกระบวนการให้สัญชาติและสถานะเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ถิ่นที่อยู่ถาวร) ให้กับคนไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวน 480,000 คน
การสนับสนุนจากภาคเอกชนจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า การทำงานที่สำคัญเช่นนี้สามารถเข้าถึงประชากรไร้รัฐไร้สัญชาติ แม้ในพื้นที่ห่างไกลที่สุดของประเทศไทย และผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้จะได้รับความช่วยเหลือในกระบวนการที่เกี่ยวข้องและเข้าถึงสิทธิของพวกเขา
“เราทำงานร่วมกับภาคธุรกิจของญี่ปุ่นที่ดำเนินงานในประเทศไทยมานานกว่า 15 ปี” คุณกันตธร วรรณวสุ CEO บริษัท เมดิเอเตอร์ จำกัด กล่าว “เราได้เห็นความสนใจของภาคธุรกิจญี่ปุ่นในการสนับสนุนงานด้านมนุษยธรรมในประเทศไทย โดยปัญหาภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศไทย ดังนั้นเราจึงอาสาเข้ามาช่วยเชื่อมโยงภาคธุรกิจไทยและญี่ปุ่นให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทย”
กองทุนไทย-ญี่ปุ่นเพื่อบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ เปิดรับการสนับสนุนตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ และระดมการสนับสนุนจากภาคเอกชนในประเทศไทย เพื่อผลักดัน ส่งเสริม และแก้ปัญหาดังกล่าว กองทุนนี้จะนำไปช่วยเหลือบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติในกระบวนการทางกฎหมายเพื่อขอสัญชาติและสถานะเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ถิ่นที่อยู่ถาวร) ซึ่งในทางกลับกันจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจและประเทศไทย รวมทั้งร่วมส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals (SDGs)) โดยมีเป้าหมายในการระดมทุนจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวนประมาณ 40,000 คน
ภาคเอกชนที่สนใจร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อการดำเนินการร่วมกับ UNHCR สามารถสอบถามรายละเอียดที่ คุณอมรศรี พัฒนศิษฎางกูร (แอน) ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR ประเทศไทย โทร 063-270-9334