UNHCR logo
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
UNHCR logo
  • Search
  • Thailand
  • Menu

Select a language for this section:

English ไทย

Select a language for our global site:

English Français Español عربي
Select a country site:
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
  • Media Centre
  • ติดต่อเรา

Share

Facebook Twitter
  • เกี่ยวกับ UNHCR
    • UNHCR ในประเทศไทย
    • อนุสัญญาปี ค.ศ.1951 ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย
    • กลุ่มคนที่เราช่วยเหลือ
    • สถิติของ UNHCR ที่น่าสนใจ
    • ผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียง
  • การทำงานของเรา
    • การมอบความคุ้มครอง
    • ทางออกที่ยั่งยืน
    • การมอบความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานและปัจจัยสี่
    • การศึกษา
    • สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • ความร่วมมือภาคเอกชน
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
    • การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
    • วิกฤตการณ์ซีเรีย
    • สถานการณ์เมียนมา
    • วิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
    • วิกฤตการณ์เยเมน
    • วิกฤตการณ์ซูดานใต้
    • วิกฤตการณ์เวเนซุเอลา
    • วิกฤตการณ์ชาด
    • วิกฤตการณ์เอธิโอเปีย
    • วิกฤตการณ์ในอัฟกานิสถาน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • เรื่องราว
    • จดหมายข่าว
    • รายงานประจำปี
  • มีส่วนร่วมกับเรา
    • บริจาคออนไลน์
    • บริจาคผ่านพนักงานโดยตรง
    • บริจาคผ่านพนักงานทางโทรศัพท์
    • กิจกรรม
    • ผู้บริจาคของเรา : ครอบครัวผู้บริจาค UNHCR
    • ความร่วมมือจากบริษัท มูลนิธิ และองค์กรต่างๆ
    • กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่เพื่อผู้ลี้ภัย
    • ผู้สนับสนุนพื้นที่สื่อสารองค์กรของ UNHCR
    • ลงชื่อสนับสนุน
    • ร่วมงานกับเรา
Search UNHCR
Close Search
 
  • Home

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาต่างร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย

ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาบริเวณชายแดนไทย-เมียนมายังคงร่วมกันทำให้เพื่อนและครอบครัวตื่นตัว ระมัดระวัง สวมใส่หน้ากาก และรักษามาตรการการเว้นระยะห่างทางกายภาพ

31 ม.ค. 2021


© One year on, Myanmar refugees support COVID-19 prevention efforts in Thailand

เป็นเวลา 1 ปีที่ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกจากต่างประเทศเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาได้ช่วยสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันตัวจากโรคโควิด-19 อย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับคนไทยทุกคนเพื่อสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมโรคตลอดเวลาที่ผ่านมา

ในประเทศไทยมีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาอยู่ราว 92,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธ์ชาวกะเหรี่ยงและกะเหรี่ยงแดงที่อาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราว (ค่าย) ทั้ง 9 แห่งบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา บางส่วนได้เริ่มเข้ามาอาศัยในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 หลังจากหนีภัยจากการสู้รบ

โรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกคน รวมถึงผู้ลี้ภัยในประเทศไทยที่มีความเสี่ยงต่อการติดและแพร่กระจายเชื้อไวรัสไม่ต่างจากคนไทยทุกคน แต่กลุ่มบุคคลเหล่านี้มีความเปราะบางมากเนื่องจากความท้าทายที่ขาดแคลนปัจจัยขั้นพื้นฐาน การเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 และการจัดหาอุปกรณ์สุขอนามัยหรือการช่วยเหลือทางการแพทย์

หน่วยงานรัฐทั่วโลกต่างมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการรับมือด้านสาธารณสุขของประเทศ และเพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลไทย สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และพันธมิตรได้จัดส่งข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ชุมชนผู้ลี้ภัยเป็นภาษากะเหรี่ยง กะเหรี่ยงแดง และเมียนมา รวมถึงการจัดประชุมย่อย การลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเรือน และการจัดฉายภาพยนตร์ ปิดแผ่นประกาศ และการประกาศผ่านระบบกระจายเสียงสาธารณะภายในค่าย อีกทั้งยังแจกจ่ายหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าแก่ผู้ลี้ภัยทุกคนในค่ายทั้ง 9 แห่ง องค์กรพันธมิตรของ UNHCR ได้จัดการอบรมด้านทักษะและความรู้ที่จำเป็นแก่ผู้ลี้ภัยเพื่อให้พวกเขาสามารถสื่อสารแนวทางการป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการรับมือต่อการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในบางพื้นที่ของประเทศไทย บุคคลทุกกลุ่มในประเทศต่างถูกกระตุ้นให้ตื่นตัว ร่วมกันช่วยให้เพื่อน ครอบครัว และเพื่อนบ้านรักษามาตรการการเว้นระยะห่างทางกายภาพและสวมใส่หน้ากากอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ทราบดีถึงความสำคัญในการสร้างการรับรู้แก่ชุมชนของพวกเขา เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบข้อมูลอยู่เสมอและผลักดันให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันต่างๆ

ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมา โพ ก่อ วัย 61 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวแม่ลามาหลวง จังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งแต่พ.ศ. 2538 เธอช่วยสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการในค่ายด้วยการประกาศข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 และคำแนะนำในการปฏิบัติตัวผ่านระบบกระจายเสียงสาธารณะ การประกาศเหล่านี้เกิดขึ้นเป็น

ประจำตามประกาศรายงานสถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งในประเทศไทยและเมียนมา ประเทศเพื่อนบ้าน “ฉันบอกผู้อาศัยทุกคนให้ป้องกันตัวเองจากการแพร่ระบาดของโรคนี้ รวมถึงพยายามให้พวกเขาล้างมือและสวมใส่หน้ากากอยู่เสมอ” เธออธิบาย

ซอ เวท ลา วัย 67 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวแม่ละอูน จังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งแต่พ.ศ. 2558 เขาเป็นผู้นำของกลุ่มครัวเรือน 10 ครอบครัวที่อาศัยในละแวกเดียวกัน ปีที่แล้วเขาได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 จากองค์กรพัฒนาเอกชนนานาชาติด้านสุขภาพ “การอบรมนี้ช่วยให้ผมรู้ว่าจะต้องส่งต่อข้อมูลและสร้างการรับรู้ให้เพื่อนบ้านและผู้พักอาศัยในละแวกเดียวกันกับฉันอย่างไร” เขาอธิบาย

นอกจากความกังวลในการป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว ความขาดแคลนด้านปัจจัยขั้นพื้นฐานยังคงเป็นวิกฤตสำหรับผู้ลี้ภัยหลายๆ คนในค่ายทั้ง 9 แห่ง ความเป็นอยู่ของพวกเขาที่มีความเสี่ยงอยู่แล้วนั้น ต้องเผชิญข้อจำกัดที่มากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงความเสี่ยงด้านการคุ้มครองผู้ลี้ภัยที่มีความเปราะบางมากที่สุดด้วย

ในการรับมือต่อสถานการณ์นี้ UNHCR ทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทย องค์กรด้านมนุษยธรรม ภาคเอกชนของประเทศไทย และภาคประชาสังคมเพื่อเพิ่มและขยายการสนับสนุนต่อความขาดแคลนดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น พร้อมกระตุ้นกิจกรรมรณรงค์การต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศและการคุ้มครองเด็กให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ และขอการสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เราสามารถทำงานมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อไปได้

UNHCR เรียกร้องการสนับสนุนให้ผู้ขอลี้ภัย ผู้ลี้ภัย และบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทยได้รวมอยู่ในแผนการเฝ้าระวัง รับมือและวางแผนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ของรัฐบาลในประเทศ อีกทั้งควรได้เข้าถึงการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 การรักษาและการจัดการรายกรณี และจากนี้ UNHCR ได้ร้องขอให้บุคคลเหล่านี้ได้รวมอยู่ในแผนการแจกจ่ายวัคซีนของรัฐบาลเช่นเดียวกับการจัดสรรให้ประชากรภายในประเทศ หากผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่น หรือชาวต่างชาติ ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในแผนการแจกจ่ายวัคซีน จะทำให้ประชากรของประเทศต้องตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการติดต่อของโรคด้วยเช่นกัน

เราทุกคนสามารถช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้ และด้วยความช่วยเหลือจากคุณ เราสามารถช่วยชีวิตผู้ลี้ภัยได้อีกมากมาย

สนับสนุนการทำงานของเรา

ติดตามการมอบความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในที่พักพิงชั่วคราวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติมได้ด้านล่างนี้

https://www.unhcr.org/th/wp-content/uploads/sites/91/2021/01/Duean-Wongsa_COVID-2021_low.mp4

Share on Facebook Share on Twitter

 

See also

UNHCR สนับสนุนความพยายามในการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากเมียนมาที่เดินทางมาถึงประเทศไทยและเน้นย้ำถึงความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการมอบความคุ้มครอง

กลุ่มผู้หนีภัยจากการสู้รบที่เปราะบางในประเทศไทยเริ่มได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ความท้าทายด้านสุขภาพของผู้ลี้ภัยยังคงอยู่ในระดับสูงท่ามกลางวิกฤตโรคโควิด-19

  • เกี่ยวกับ UNHCR
  • การทำงานของเรา
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
  • มีส่วนร่วมกับเรา

© UNHCR 2001-2022

  • Terms & Conditions and Privacy Policy
  • Follow