UNHCR logo
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
UNHCR logo
  • Search
  • Thailand
  • Menu

Select a language for this section:

English ไทย

Select a language for our global site:

English Français Español عربي
Select a country site:
  • บริจาค
  • ลงชื่อติดตามและสนับสนุนการทำงาน
  • Media Centre
  • ติดต่อเรา

Share

Facebook Twitter
  • เกี่ยวกับ UNHCR
    • UNHCR ในประเทศไทย
    • อนุสัญญาปี ค.ศ.1951 ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย
    • กลุ่มคนที่เราช่วยเหลือ
    • สถิติของ UNHCR ที่น่าสนใจ
    • ผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียง
  • การทำงานของเรา
    • การมอบความคุ้มครอง
    • ทางออกที่ยั่งยืน
    • การมอบความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานและปัจจัยสี่
    • การศึกษา
    • สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • ความร่วมมือภาคเอกชน
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
    • การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
    • วิกฤตการณ์ซีเรีย
    • สถานการณ์เมียนมา
    • วิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
    • วิกฤตการณ์เยเมน
    • วิกฤตการณ์ซูดานใต้
    • วิกฤตการณ์เวเนซุเอลา
    • วิกฤตการณ์ชาด
    • วิกฤตการณ์เอธิโอเปีย
    • วิกฤตการณ์ในอัฟกานิสถาน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • เรื่องราว
    • จดหมายข่าว
    • รายงานประจำปี
  • มีส่วนร่วมกับเรา
    • บริจาคออนไลน์
    • บริจาคผ่านพนักงานโดยตรง
    • บริจาคผ่านพนักงานทางโทรศัพท์
    • กิจกรรม
    • ผู้บริจาคของเรา : ครอบครัวผู้บริจาค UNHCR
    • ความร่วมมือจากบริษัท มูลนิธิ และองค์กรต่างๆ
    • กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่เพื่อผู้ลี้ภัย
    • ผู้สนับสนุนพื้นที่สื่อสารองค์กรของ UNHCR
    • ลงชื่อสนับสนุน
    • ร่วมงานกับเรา
Search UNHCR
Close Search
 
  • Home

ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติลงพื้นที่ 3 วันในประเทศอัฟกานิสถาน

20 ก.ย. 2021

นายฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เข้าตรวจสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่คลังสินค้าในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน © UNHCR/Ghulam Abbas Farzami

นายฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เข้าตรวจสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่คลังสินค้าในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน © UNHCR/Ghulam Abbas Farzami

หลังภารกิจการลงพื้นที่ 3 วันในประเทศอัฟกานิสถาน นายฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องความช่วยเหลือแก่ชาวอัฟกันที่ยังพลัดถิ่นอยู่ในประเทศและผู้ลี้ภัยที่ถูกบังคับให้หนีไปต่างประเทศอย่างเร่งด่วนและยั่งยืน

“สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในอัฟกานิสถานยังคงร้ายแรง” นายกรันดีกล่าว แม้ก่อนเหตุการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นช่วง 2 – 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวอัฟกันมากกว่า 18 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนอยู่แล้ว โดยกว่า 3.5 ล้านคนต้องพลัดถิ่นจากบ้านของตนเนื่องจากความขัดแย้งและยังคงอยู่ภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงชาวอัฟกันราว 630,000 คนที่พลัดถิ่นใหม่ในพ.ศ. 2564

“และหากการบริการสาธารณะและเศรษฐกิจล่มสลาย เราจะเห็นความทุกข์ทรมาน ความไม่มั่นคง และการพลัดถิ่นทั้งในและนอกประเทศที่เพิ่มมากขึ้น” นายกรันดีเตือน

“ดังนั้น ประชาคมโลกต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับสถานการณ์ของอัฟกานิสถานและต้องลงมืออย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่จะขยายใหญ่ขึ้นไม่ใช่แค่ในภูมิภาคแต่ในระดับโลก”

ระหว่างการลงพื้นที่ในกรุงคาบูล นายกรันดีได้พบกับรัฐบาลรักษาการของอัฟกานิสถาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติและองค์กรพัฒนาเอกชนอีกหลายร้อยคนที่ยังคงอยู่และทำงานในพื้นที่ท่ามกลางสถานการณ์ความท้าทายต่างๆ

หลังจากการประชุมกับรัฐบาลรักษาการของอัฟกานิสถาน นายกรันดีกล่าวว่า “ผมมีความยินดีต่อคำมั่นในการมอบความปลอดภัยและช่วยให้เกิดการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมทั่วประเทศ พวกเขาเล็งเห็นถึงความขาดแคลนและขอบคุณองค์การสหประชาชาติที่ได้มอบความช่วยเหลือแก่ชาวอัฟกัน”

“เรายังหารือหัวข้อสำคัญอื่น ๆ เช่น เรื่องการกลับไปทำงานอย่างปลอดภัยของเจ้าหน้าที่หญิง ความสำคัญเรื่องการศึกษาสำหรับเด็กอัฟกานิสถาน และเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคงของชาวอัฟกันทุกคน รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์”

“ผมสนับสนุนให้รัฐบาลรักษาการ ย้ำคำมั่นที่สำคัญเหล่านี้ต่อสาธารณชนและยึดมั่นที่จะนำคำมั่นเหล่านี้มาปฎิบัติจริง” เขาเสริม

ระหว่างการลงพื้นที่ นายกรันดีได้เข้าตรวจขบวนรถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่คลังสินค้าของ UNHCR ในคาบูลที่เข้ามาจากประเทศปากีสถานผ่านทางชายแดนเมืองทอร์คาม รถบรรทุกได้ลำเลียงเต้นท์หลายพันหลังและสิ่งของบรรเทาทุกข์อื่น ๆ เพื่อมอบให้ครอบครัวชาวอัฟกันที่พลัดถิ่น

UNHCR ได้ช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นในอัฟกานิสถานแล้วมากกว่า 300,000 คนด้วยสิ่งของบรรเทาทุกข์และเงินช่วยเหลือในปีนี้ และเร่งทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้คนให้ได้มากที่สุดก่อนที่หน้าหนาวกำลังใกล้จะมาถึง

ในนครมะซารีชะรีฟ ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถาน นายกรันดียังได้เปิดตัวโครงการผลิตพรมเพื่อว่าจ้างคนงาน 45 คนที่ต้องดูแลสมาชิกครอบครัวอีกหลายร้อยคน

ในขณะที่สถานการณ์ในอัฟกานิสถานจนถึงปัจจุบันยังไม่ส่งผลต่อการหลั่งไหลของผู้ลี้ภัย UNHCR ยังคงเรียกร้องต่อผู้บริจาคเพื่อขยายความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันอีกหลายล้านคนที่พักพิงอยู่ในประเทศปากีสถานและอิหร่านและสำหรับผู้ที่อาจต้องการความคุ้มครองระหว่างประเทศในอนาคต

“ปากีสถานและอิหร่านได้มอบที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันอย่างโอบอ้อมอารีมายาวนานมากกว่า 40 ปี ตอนนี้ที่อาจจะมากกว่าตอนใด ๆ ชุมชนนานาชาติต้องลงมือมากขึ้นเพื่อมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการพัฒนาแก่ผู้ลี้ภัยเหล่านี้และชุมชนที่มอบที่พักพิงแก่พวกเขา และเร่งการตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สามแก่ชาวอัฟกันที่พักพิงอยู่ในประเทศดังกล่าว” นายกรันดีกล่าว

ข้าหลวงใหญ่ฯ ยังได้เดินทางต่อไปยังปากีสถานเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและทบทวนแผนการรับมือต่อสถานการณ์ผู้ลี้ภัยในประเทศ

บริจาคตอนนี้

Share on Facebook Share on Twitter

 

See also

UNHCR เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียของชีวิต และความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในอัฟกานิสถาน

UNHCR: สถานการณ์ยูเครนและความขัดแย้งอื่นๆ ทำให้ยอดผู้คนที่ถูกบังคับให้พลัดถิ่นพุ่งสูงกว่า 100 ล้านคนเป็นครั้งแรก

เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.9 และ 5.3 แมกนิจูดทางตะวันตกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถาน

  • เกี่ยวกับ UNHCR
  • การทำงานของเรา
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ข้อมูลข่าวสารล่าสุด
  • มีส่วนร่วมกับเรา

© UNHCR 2001-2022

  • Terms & Conditions and Privacy Policy
  • Follow